ทุกๆการอัปเดตใหม่ของ Google Search มักมีการเปลี่ยนแปลงของการจัดอันดับการค้นหา และส่งผลกระทบต่อการทำ SEO ไม่มากก็น้อย ทำให้นักทำ SEO ทุกๆท่านจึงต้องมั่นเรียนรู้ เปลี่ยนแปลง และแก้ไขเว็บไซต์ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
โดยเจ้าตัว Passage Ranking ก็นับได้ว่าเป็นอีกการอัปเดตหนึ่งที่ถูกเพิ่มขึ้นมาและมีผลต่อการทำ SEO อยู่บ้าง แต่จะมีผลอย่างไรนั้น หาคำตอบได้ในบทความนี้
Google Passage Ranking คือ
Google Passage Ranking คือ การจัดอันดับการค้นหาในรูปแบบคำค้นหาที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งแตกต่างจากการจัดอันดับทั่วไปอย่าง Page Ranking ที่จะจัดอันดับหน้าเว็บเพียงอย่างเดียว กลับกลายมาเป็นมีการจัดอันดับในส่วนของ ย่อหน้าและข้อความที่ถูกเขียนไว้ในบรรทัดนั้นๆด้วย
สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานที่มีความต้องการค้นหาข้อมูลเนื้อหายากๆ หรือมีคำค้นหาที่ยาวก็จะรับการแสดงผลการค้นหาให้ตรงตามความต้องการมากขึ้น
ตัวอย่างในภาพจะเห็นได้ว่าเมื่อผู้ค้นหาใส่คำว่า จะรู้ได้ยังไงว่าหน้าต่างบ้านฉันเป็นกระจกยูวี “How can i determine if my house windows are uv glass” ผลลัพธ์ที่ได้ออกจากการค้นหานั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก สังเกตจากผลลัพธ์ที่แสดงในแบบเก่าจะเห็นได้ว่าผิดจุดประสงค์ของผู้ค้นหาไปมากเพราะไปพูดถึงราคาและร้านที่รับติดตั้งหน้าต่างกันยูวีแทน แต่กลับกันเมื่อมีระบบ Passage เข้ามาช่วยในการค้นหาผลลัพธ์ที่ได้ก็ตรงตามความต้องการของผู้ค้นหาทันที โดยมีการบอกถึงวิธีการตรวจเช็คว่าทำอย่างไรถึงจะรู้ได้ว่ากระบ้านของเรานั้นสามารถกันยูวีได้จริง จากรูปทั้งสองจึงหาข้อสรุปได้เลยว่าการมีอยู่ของ Passage นั้นจะเป็นสิ่งช่วยให้ผู้ใช้งานได้สะดวกสบาย และเข้าถึงข้อมูลได้ตรงตามความต้องการมากขึ้นนั่นเอง
** Passage Ranking เป็นการจัดอันดับเพียงคำค้นหาเฉพาะเท่านั้น ไม่ได้ทำงานแทนที่ Page ranking อย่างที่หลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดไป
Google Passage Ranking มีผลต่อการทำ SEO อย่างไร
ข้อมูลจาก Google ได้บอกว่า Passage Ranking มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์การค้นหาสูงถึง 7% ด้วยกัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกการอัปเดตที่มีตัวเลขในการเปลี่ยนแปลงของอันดับการค้นหาที่สูงทีเดียว
เหตุผลก็มาจากการที่เจ้าตัว Passage นี้เลือกที่จะแสดงผลลัพธ์ในการค้นหาเป็นหน้าเว็บที่แตกต่างจากเดิม นึ่จึงทำให้นักทำ SEO หลายๆคนต่างหาข้อมูลและเริ่มที่จะแก้ไขให้แต่ละหน้าเว็บของตัวเองเหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของอัลกอริทึ่มของ Passage มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าทาง John Mueller พนักงานตำแหน่ง Senior Webmaster Trends Analyst ของ Google จะมองว่าไม่จำเป็นจะต้องปรับแต่งเว็บไซต์ให้เข้ากับ Passage ranking ซึ่งได้พูดไว้ในคลิปด้านล่างนี้ในช่วง 30วิแรก ของคลิปด้านล่างนี้ก็ตาม
แต่ผมก็เชื่อว่าการจัดทำเนื้อหาข้อมูลของแต่ละหน้าเว็บให้เหมาะสมทั้งกับ Page ranking ที่จำเป็นอยู่แล้วในด้านอันดับการค้นหาทั่วๆไป และ Passage ในด้านการจัดอันดับการค้นหาเกี่ยวกับคำเฉพาะล้วนแล้วแต่เป็นอีกสิ่งที่สำคัญในการทำ SEO ทั้งนั้น โดยตัวอย่างของการทำหน้าเว็บให้มีคะแนน Passage Ranking ที่ดี ก็จะมีพื้นฐานง่ายๆดังนี้
- เพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวกับคำเฉพาะ และเน้นไปที่การทำ Long-Tail keywords เพื่อช่วยให้การค้นหาแบบ Passage พบเจอหน้าเว็บของเราได้บ่อยขึ้น โดยโปรแกรมที่ผมแนะนำใช้สำหรับการหาในส่วนของ long tail keyword นั้นผมขอแนะนำเป็นเครื่องมือเหล่านี้
- ubersuggest
- Ahrefs
- Semrush
- google keyword planner
- keywordtool
- เนื้อหาที่เขียนในแต่ละย่อหน้า ควรให้มีความกระชับไม่ยาวมาก แต่ได้ใจความที่ครบถ้วน
- จัดทำหัวข้อ H1,H2,H3 ให้ถูกต้อง และไม่ควรเขียนเนื้อหายาวจนเกินไป ให้แบ่งเป็นย่อหน้าบ้าง
- สุดท้ายคือการทำ SEO ทุกๆอย่างเหมื่อนที่เคยทำให้กับ Page Ranking ทั้งในส่วนของ Off-page และ On-page เมื่อเสร็๗หมดแล้วก็รอดูผลลัพธ์ได้ลเยครับ
***ถึงแม้ว่าระบบ Passage Ranking นี้จะช่วยให้หน้าเว็บของเราไปโผล่ให้ผู้ค้นหาคำเฉพาะเจาะจงอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็อย่าหลงลืมไปว่านี่เป็นเพียงการจัดอันดับของการค้นหาเฉพาะที่ไม่ได้เป็นจำนวนคนส่วนมากที่ใช้คำเหล่านี้มาค้นหา เพราะฉะนั้นการทำ SEO ให้กับ Page Ranking ยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากกว่าอยู่ดี