การอัปเดตของ Google มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และหลายๆครั้งก็มีผลต่อการจัดอันดับและการทำ SEO อย่างมาก เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการดูแลปรับปรุงเนื้อหาเว็บไซต์อย่างไรเพื่อรองรับการอัปเดตในอนาคตของ Google กัน
โดยสิ่งแรกที่ควรรู้เกี่ยวกับการอัปเอดตของ Google นั่นคือทาง Google เองก็มีบทความที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ตัวเจ้าของเว็บไซต์และผู้สนใจได้ทราบถึงการอัปเดตเนื้อหาต่างๆเบื้องต้นไว้อยู่แล้ว สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ developers.google.com
เมื่อทำความเข้าใจถึงพื้นฐานของการอัปเดตแล้วนั้น จะเห็นได้ว่าหากเว็บไซต์ของคุณมีคอนเท้นที่คุณภาพสูงและโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีอยู่แล้วนั้น ก็อาจจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการอัปเดตต่างๆของ Google มากนัก เพราะอย่างไรเสียเนื้อหาคุณภาพบวกกับโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีแล้วนั้นก็ย่อมมีโอกาสสูงในการถูดจัดอันดับให้อยู่ในหน้าแรกๆของการค้นหาอยู่แล้ว
แน่นอนว่าหลายๆคนอาจมีจะมีคำถามว่าแค่มีเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีแล้วนั้นมากพอที่จะติดอันดับของการค้นหาจริงๆหรอ ผมขอตอบว่าโดยส่วนใหญ่ที่ว่ามานั้นถือว่าใช่ครับ เพียงแต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด เพราะการทำ SEO นั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับที่สูงขึ้น เพียงแต่ว่าเว็บไซต์ของคุณจะไม่มีทางติดอันดับได้เลยถ้าตัวเว็บไม่ได้เนื้อหาที่ดีและโครงสร้างเว็บที่สามารถรองรับการใช้งานได้จากทุกแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ถึงแม้คุณจะปรับปรุงเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ดีแล้ว แต่อย่าลืมว่าคู่แข่งเว็บอื่นๆนั้นก็ทำเช่นเดียวกัน สิ่งนี้ทำให้คุณต้องคอยตรวจสอบและศึกษาคู่แข่งอยู่เสมอว่า Keyword ที่คุณต้องการนั้นมีการแข่งขันอย่างไรบ้าง เนื้อหาและเว็บไซต์ของเรานั้นดีกว่าคู่แข่งหรอยัง สิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหาได้
เอาล่ะ หลังจากทราบกันไปแล้วว่าเราต้องทำเนื้อหาให้มีคุณภาพเพื่อรองรับการตรวจสอบและการอัปเดตของ Google ไปแล้ว ต่อไปผมจะพูดถึงรายละเอียดของเนื้อหาในหน้าเว็บที่มีคุณภาพมากพอให้ติดอันดับในการค้นหากัน โดยสามารถแบ่งออกได้ 3 ข้อดังนี้
โครงสร้างของบทความ
- เนื้อหาต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนครบถ้วน
- หากเนื้อหานั้นได้ข้อมูลมาจากแหล่งเว็บอื่น ต้องหลีกเลี่ยงการ copy หรือเขียนซ้ำกับแหล่งที่มา และเพิ่มความรู้ใหม่เข้าไปด้วย
- หัวข้อของบทความต้องบอกถึงเนื้อหาภายในได้
- ไม่ควรตั้งหัวข้อเป็นแบบ clickbait
- ไม่ยัดเยียด Keyword ที่ต้องการมากเกินไป
- หน้าเว็บของบทความรองรับการอ่านจากทุกอุปกรณ์
- การเขียนเนื้อหาต้องถูกต้องตามไวยากรณ์ และไม่มีคำผิด
ผู้เขียนเนื้อหาและอ้างอิง
- เนื้อหาต้องถูกเขียนขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆโดยเฉพาะ
- เนื้อหาด้านในมีการรับรองผ่านการวิจัย หรือแหล่งที่มาต่างๆที่มีความน่าเชื่อถือ
- ข้อมูลของเนื้อหานั้นต้องไม่ผิดพลาดในเรื่องที่ตรวจเช็คได้
เปรียบเทียบเนื้อหากับคู่แข่ง
- เนื้อหาในบทความหรือหน้าเว็บของคุณนั้นต้องมีความละเอียด เข้าใจง่ายและกระชับมากกว่าคู่แข่ง
- ใช้เครื่องมือตรวจสอบจำนวนเนื้อหา Keyword ที่เราต้องการของคู่แข่งและทำเนื้อหาเหล่านั้นให้ดีกว่า
จะเห็นได้ว่าทั้งสามข้อที่กล่าวแทบจะเป็นเรื่องพื้นฐานที่หลายๆคนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้ว แต่การทำเนื้อหาเหล่านี้ให้ครบทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ถ้าทำได้ผมรับรองว่าอันดับของเว็บไซต์คุณจะดีขึ้นตามลำดับอย่างแน่นอน
สรุป
ถึงแม้ว่า Google จะมีการอัพเดตบ่อยครั้งและเกิดการเปลี่ยนแปลงของการจัดอันดับผลการค้นหาอยู่ตลอดเวลา แต่หากเนื้อหาและระบบโครงสร้างของเว็บไซต์คุณทำเอาไว้ดีกว่าคู่แข่งและตอบรับตามหลักการพิจารณาคุณภาพของเว็บไซต์จาก Google หรือที่เรียกกันว่า E-A-T ก็ให้มั่นใจได้เลยว่าอันดับของหน้าเว็บคุณจะไม่ตกแน่นอน
***หากอันดับเว็บไซต์ของคุณตกหลังการอัปเดตของ Google ให้ใจเย็นๆแล้วตรวจสอบว่าหน้าเว็บนั้นของคุณมีความผิดปกติใดบ้าง รวมถึงตรวจสอบว่าการอับเดตที่มาใหม่นั้นเป็นอะไร และส่งผลต่อเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไร
