ก่อนอื่นควรทำความเข้าใจก่อนว่า นักรบเคยเป็นพนักงานประจำมีเงินเดือนเพียง 2 หมื่นกว่าบาทมาก่อน ส่วนครอบครัวอยู่ในฐานะปานกลาง และใฝ่ฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองมากๆ เพราะรู้ว่าจะช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ฉะนั้นการทำธุรกิจและการตลาดแบบนักรบ จะอยู่พื้นฐานของหลักการคล้ายๆ อิคิไก คือ ทำงานที่ชอบ ทำงานที่ถนัด สังคมต้องการ และสร้างรายได้เลี้ยงชีพได้
ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ
ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ไม่มีเงินทุน มีเพียงเงินเหลือจากแต่ละเดือนเพียงหลักพัน ไม่สามารถลงทุนทำธุรกิจที่ใช้เงินหลักล้านได้ ฉะนั้นเราไม่สามารถเล่นในเกมธุรกิจที่เงินลงทุนสูงๆได้แน่นอน ยังดีที่ได้รู้จักคำว่า ” การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนในตัวเอง “ จึงมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือด้านการสร้างเว็บไซต์และการทำการตลาด เพราะเรามีอาชีพเป็น Webmaster มาก่อน
คิดเพียงว่า ถ้าเราเก่งมากพอจะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจคนอื่นได้ วันหนึงที่เรามีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราก็ทำการตลาดให้ธุรกิจตัวเองได้เหมือนกัน ฉะนั้นธุรกิจที่จะทำจึงมุ่งไปที่การสร้างบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ (หากคุณทำอาชีพด้านไหน ลองทำให้ธุรกิจคนอื่นก่อน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากพอ เวลาออกมาทำเองจะได้ลดการลองผิดถูกไปมาก โอกาสสำเร็จก็มากขึ้นด้วย)
ช่วงสร้างธุรกิจ
ช่วงสร้างธุรกิจมีแค่เราเพียง 1 คน จึงเริ่มต้นเป็นฟรีแลนซ์ก่อน ถ้าธุรกิจมันไปได้ ค่อยเก็บเงินมาจัดตั้งบริษัทในภายหลังได้ เพราะการจดบริษัทมีเงื่อนไขหลายข้อ โดยหลักๆที่สำคัญคือ
- ผู้ร่วมจัดตั้งบริษัทมี 3 คน และต้องมีเงินลงทุนจดทะเบียนบริษัท
- ค่าใช้จ่ายจ้างจดบริษัทเริ่มต้นประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท
- ค่าทำบัญชีปีล่ะ 1 หมื่นกว่าบาท
ดูสิแค่เริ่มจัดตั้งบริษัทก็ใช้เงินลงทุนหลักหมื่นแล้ว เนื่องจากนักรบไม่มีเงินขนาดนั้น จึงเริ่มจากเป็นฟรีแลนซ์ก่อนเพื่อเก็บเงิน
ช่วงทำงานฟรีแลนซ์เก็บเงินตั้งบริษัท
เป้าหมายคือเก็บเงินเพื่อจัดตั้งบริษัท พร้อมๆกับทดลองด้วยว่าธุรกิจนั้นจะทำได้ผลดีไหม โดยธุรกิจแรกๆที่ทำแล้วได้ผลคือ การบันทึกความรู้การสร้างเว็บไซต์ลงใน DVD เพราะเราเป็น Webmaster มาก่อน เลยมีความรู้เรื่องนี้มากพอจะสอนได้
ในระหว่างทางมีปัญหาที่สำคัญคือ ไม่มีเวลาเหลือพอทำธุรกิจเสริมเพราะใช้เวลาเดินทางไปกลับที่ทำงานนานเกินไป จึงจึงแก้ไขโดยการย้ายมาอยู่หอใกล้ที่ทำงาน เดินเพียง 5 นาทีถึง จะได้มีเวลาเหลือ 3-4 ชม. หลังเลิกงานก็มาสร้างธุรกิจ จากนั้นใช้เวลา 1 ปี เพื่อทดสอบว่ามันได้ผล และเก็บเงินได้ 1 แสน ก็เพียงพอในการจดจัดตั้งบริษัทในปีถัดมา
ช่วงขยายธุรกิจ
ก้าวเล็กๆที่รู้สึกได้ว่าเรากำลังขยายธุรกิจแล้วนะ คือ ช่วงตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาทำบริษัทเต็มตัว แม้ว่าจะมีพนักงานเพียง 1 คน คือตัวเราเองก็ตาม โดยสิ่งที่ได้หลังออกจากงาน คือ มีเวลาเหลือจาก 4 ชม. เพิ่มเป็น 10 ชม. ต่อวัน
ช่วงทำธุรกิจแรกๆ ขยันมากๆ เพราะเรารู้ว่า ยิ่งทำ กิจการของเราจะยิ่งโตเร็ว เรารู้สึกว่าเป็นเจ้าของจริงๆ เรามีเป้าหมายที่จะสร้างยอดขายหลักล้านให้กิจการเพื่อได้สัมผัสสความรู้สึกนั้น
พนักงานคนที่ 2 ของบริษัท
การเลือกทีมเข้ามาทำงานนั้น หากเป็นพนักงานประจำ จะมีเงื่อนไขทางกฎหมายและเอกสารมาเป็นหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มเติม เสี่ยงมากที่งานเอกสารเหล่านี้จะเบียดเวลาทำการตลาดของนักรบ อันส่งผลต่อยอดขายและการตลาดของลูกค้า ฉะนั้นช่วงแรกเราจึงใช้บริการฟรีแลนซ์เป็นส่วนใหญ่ในปีแรกๆ หลังจากนั้นจึงดึงแฟนมาเป็นผู้ช่วยในเวลาต่อมาถึงปัจจุบัน
หลักการพัฒนาทีมงานฟรีแลนซ์ประจำ
ทีมงานของนักรบจะมี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ
- ฟรีแลนซ์ประจำ คือ ทีมงานที่ได้รับเงินเดือนและได้สวัสดิการแบบพนักงานประจำในทางกฎหมาย แต่เนื่องจากวัฒนธรรมของนักรบนั้นโตมาจากการเป็นฟรีแลนซ์ จะพยายามแจ้งทีมเสมอให้ทำงานแบบฟรีแลนซ์ บริหารเวลาทำงานได้เอง และรับผิดชอบงานลูกค้าเสมือนงานของตัวเอง
- ฟรีแลนซ์ไม่ประจำ คือจ้างงานเป็นครั้งคราว โดยเราจะเอ้าท์ซอร์สงานที่ไม่ถนัดให้คนอื่น เช่น งานกราฟิกดีไซน์และการถ่ายวีดีโออีเว้นท์
หลักการพัฒนาคือ 1 อาจารย์ 2 ลูกศิษย์ การจะมีรายได้และเติบโตได้ควรเก่งมากพอจะสอนทีมงานได้อย่างน้อย 2 คนก่อน และจะได้รับการบริหารโปรเจคที่ใหญ่ขึ้นได้
ช่วงรักษาธุรกิจ
นักรบคิดว่าเราทำธุรกิจถึงเป้าหมายใน 4 เรื่องแล้ว คือ ทำงานที่ชอบ ถนัด สังคมต้องการและเลี้ยงชีพได้ ขั้นต่อไปคือ การรักษากิจการนี้ให้มั่นคงยาวนานหลายสิบปี จากมุมมองความคิดนักรบ การรักษาธุรกิจที่ดีควรทำควบคู่กับการขยายธุรกิจไปด้วย เพราะถ้าไม่ขยายก็มีแต่ทรงตัวหรือถดถอยตามเวลา ยากที่จะรักษาได้นาน
ทางเลือกการขยายธุรกิจที่พอมองเห็น
- ใช้เงินลงทุนและทีมงาน เพื่อการขยายธุรกิจไปทางต้นน้ำหรือปลายน้ำ อาจจะลงทุนสร้างเองหรือซื้อกิจการมารวมกันก็ได้ เส้นทางนี้เราจะโตเป็นผู้บริหาร ซึ่งน่าจะไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่เราจะเลือก
- การขยายธุรกิจแบบพันธมิตร แฟรนไชส์ หรือ หุ้นส่วน เน้นการ Share resource และร่วมกันโต เส้นทางนี้น่าสนใจเพราะลงทุนน้อยกว่าและเข้ากับไลฟ์สไตล์เรามากกว่า
นักรบเลือกการขยายธุรกิจแบบพันธมิตรฟรีแลนซ์ เพราะเข้ากับวัฒนธรรมการทำงานแบบนักรบมากกว่า ถ้าใครสนใจเป็นพันธมิตรฟรีแลนซ์กับนักรบ สามารถติดต่อ เพื่อทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ครับที่ Line@ ครับ